“MACAU, THE CAPITAL OF BACCARAT”

“Macau, the capital of baccarat”

“Macau, the capital of baccarat”

Blog Article

 “มาเก๊า เมืองหลวงแห่งบาคาร่า”


Macau-the-capital-of-baccarat.

บทนำ


บาคาร่า ถือเป็นหนึ่งในเกมคาสิโนยอดนิยมที่เล่นกันทั่วโลก ด้วยรูปแบบการเล่นที่เข้าใจง่าย ใช้เวลาสั้น และมีโอกาสชนะสูง ทำให้เกมไพ่ชนิดนี้กลายเป็นที่ชื่นชอบของนักเสี่ยงโชคในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งยุโรป อเมริกา หรือเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย บาคาร่าได้รับความนิยมในระดับที่สูงมากอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย หรือเกาหลีใต้ แต่หากจะพูดถึง “ประเทศ” หรือ “พื้นที่” ที่มีสถิติการเล่นบาคาร่ามากที่สุดในโลกแล้ว คงไม่มีที่ใดเทียบได้กับ “มาเก๊า” เขตปกครองพิเศษของจีน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “ลาสเวกัสแห่งเอเชีย”

มาเก๊าเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมคาสิโนที่สำคัญในระดับโลก โดยมีจำนวนคาสิโนขนาดใหญ่ระดับรีสอร์ทมากกว่า 40 แห่ง ซึ่งภายในมีโต๊ะบาคาร่าให้บริการนับพันโต๊ะ ไม่เพียงแต่รองรับผู้เล่นทั่วไปเท่านั้น แต่ยังรองรับกลุ่มนักพนัน VIP ที่มาจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะนักลงทุนระดับสูงจากจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และไต้หวัน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนรายได้มหาศาลเข้าสู่มาเก๊า ผ่านการเล่นบาคาร่าเป็นหลัก

ความนิยมในการเล่นบาคาร่าในมาเก๊าส่งผลให้รายได้จากเกมนี้มีสัดส่วนสูงอย่างน่าทึ่งเมื่อเทียบกับเกมคาสิโนประเภทอื่น เช่น รูเล็ต แบล็กแจ็ก หรือสล็อตแมชชีน โดยข้อมูลจากสำนักกำกับดูแลและตรวจสอบการเล่นเกมของมาเก๊า (Macau Gaming Inspection and Coordination Bureau) ระบุว่า กว่า 88% ของรายได้จากคาสิโนทั้งหมดในมาเก๊า มาจากบาคาร่าเพียงเกมเดียว นี่จึงไม่ใช่แค่ความนิยมธรรมดา แต่เป็นการสร้างเศรษฐกิจแบบพึ่งพาบาคาร่าเป็นหลักเลยทีเดียว

บทความนี้จะพาผู้อ่านไปสำรวจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเล่นบาคาร่าในมาเก๊า ทั้งในแง่ของตัวเลขสถิติ ค่าเฉลี่ยการเล่นในแต่ละช่วงเวลา (รายวัน รายเดือน รายปี) และยังเจาะลึกถึงผลกระทบของรายได้จากบาคาร่าต่อเศรษฐกิจมวลรวม (GDP) ของมาเก๊าอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นด้านบวก เช่น การสร้างรายได้ การจ้างงาน หรือด้านลบอย่างผลกระทบทางสังคมจากพฤติกรรมการเสพติดการพนัน เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจว่า “Gclub” ไม่ใช่แค่เกมไพ่ธรรมดา แต่คือพลังขับเคลื่อนหลักที่มีอิทธิพลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้อย่างลึกซึ้ง

 

1. มาเก๊า: ประเทศที่มีสถิติการเล่นบาคาร่ามากที่สุดในโลก


มาเก๊าไม่เพียงเป็นแหล่งรวมคาสิโนขนาดใหญ่ระดับโลก แต่ยังถือว่าเป็น “ศูนย์กลางของบาคาร่าโลก” อย่างแท้จริง ด้วยรายได้จากการเล่นบาคาร่าเพียงอย่างเดียวที่คิดเป็นกว่า 88% ของรายได้จากเกมคาสิโนทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า บาคาร่าเป็นเสาหลักของอุตสาหกรรมการพนันในมาเก๊า และเป็นเกมที่ผู้เล่นนิยมเลือกใช้เพื่อวางเดิมพันมากที่สุด

ในปี 2024 ที่ผ่านมา มีรายงานว่ารายได้จากบาคาร่าในมาเก๊าอยู่ที่ ประมาณ 15.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แบ่งเป็นรายได้จาก:

กลุ่ม VIP (High Roller) ประมาณ 9.4 พันล้านดอลลาร์

ผู้เล่นทั่วไป ประมาณ 6.2 พันล้านดอลลาร์

นักพนัน VIP ส่วนใหญ่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งนิยมเดินทางเข้ามาเล่นบาคาร่าที่มาเก๊า เนื่องจากข้อจำกัดด้านการพนันภายในประเทศของตน

 

2. ค่าเฉลี่ยการเล่นบาคาร่าในแต่ละช่วงเวลา


จากสถิติของ Macau Gaming Inspection and Coordination Bureau (DICJ) พบว่า:

รายได้เฉลี่ยจากบาคาร่า/วัน: 42.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายได้เฉลี่ย/เดือน: ประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์

รายได้รวม/ปี: เฉลี่ย 15.6 พันล้านดอลลาร์

ตัวเลขเหล่านี้ยังผันแปรตามฤดูกาลท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลสำคัญ และกิจกรรมโปรโมชั่นของคาสิโนแต่ละแห่ง โดยคาสิโนที่มีโต๊ะบาคาร่าให้บริการมากที่สุดในโลก เช่น:

Venetian Macau

City of Dreams

Wynn Macau

ถือเป็นแหล่งรวมของนักพนันมืออาชีพจากทั่วโลก

 

3. ผลกระทบทางเศรษฐกิจมวลรวม (GDP) ของมาเก๊า


บาคาร่าไม่ได้เป็นเพียงเกมที่ให้ความบันเทิง แต่ยังเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจของมาเก๊าอย่างสำคัญ โดย:

รายได้จากบาคาร่าเพียงอย่างเดียว คิดเป็นมากกว่า 40% ของ GDP ทั้งหมดของมาเก๊า

มาเก๊าจึงกลายเป็นพื้นที่ที่มี รายได้ต่อหัวประชากรสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย

อุตสาหกรรมนี้ยังสร้าง การจ้างงานกว่า 80,000 ตำแหน่ง ทั้งในคาสิโน โรงแรม ร้านอาหาร และบริการที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลมาเก๊าสามารถจัดเก็บภาษีจากรายได้ของคาสิโนสูงถึง 35% ทำให้ในปี 2023 มีรายรับจากภาษีการพนันมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนำไปใช้ในการพัฒนาสาธารณูปโภค การศึกษา และสวัสดิการประชาชน

 

4. ผลกระทบทางสังคมและวัฒนธรรม


แม้บาคาร่า จะเป็นแหล่งรายได้หลัก แต่ก็มี ผลกระทบทางลบที่ตามมา โดยเฉพาะ:


การเสพติดการพนัน ซึ่งเริ่มเห็นชัดในกลุ่มคนวัยทำงาน

การฟอกเงินผ่านโต๊ะบาคาร่า โดยเฉพาะกลุ่ม VIP ที่มีการเคลื่อนย้ายเงินจำนวนมาก

ความเหลื่อมล้ำ ระหว่างกลุ่มเจ้าของคาสิโนและแรงงานระดับล่างที่ไม่ได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่

เพื่อลดผลกระทบเหล่านี้ รัฐบาลมาเก๊าได้ออกนโยบายควบคุม เช่น:

กำหนดจำนวนครั้งที่ผู้มีถิ่นพำนักในมาเก๊าสามารถเข้าเล่นคาสิโน

บังคับใช้ระบบการระบุตัวตน (ID Verification) ทุกครั้งที่เข้าโต๊ะบาคาร่า

จำกัดวงเงินและระยะเวลาการเล่นในกลุ่มเสี่ยง

รายละเอียดของระบบภาษีบาคาร่าในมาเก๊า อุตสาหกรรมคาสิโนในมาเก๊า โดยเฉพาะรายได้จากเกมบาคาร่า ถือเป็นแหล่งรายได้ภาษีที่สำคัญของรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งมีระบบจัดเก็บภาษีที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากที่สุดระบบหนึ่งในเอเชีย โดยคาสิโนทุกรายที่เปิดให้บริการเกมบาคาร่าจะต้องจ่ายภาษีจากรายได้รวม (Gross Gaming Revenue - GGR) ตามอัตราที่กำหนด ดังนี้:

อัตราภาษีที่จัดเก็บจากบาคาร่า ภาษีรายได้จากการพนัน (Gaming Tax):

อัตรา 35% ของรายได้รวมจากการพนัน โดยไม่หักค่าใช้จ่าย

ตัวอย่างเช่น หากโต๊ะบาคาร่าแห่งหนึ่งมีรายได้ 1 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน คาสิโนจะต้องจ่ายภาษีจำนวน 350,000 ดอลลาร์

ภาษีเพิ่มเติมและค่าธรรมเนียม (Additional Contributions):

รวมอีกประมาณ 4-5% เพื่อสนับสนุน:

กองทุนสาธารณสุขและการศึกษา

กองทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

กองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม

รวมแล้วคาสิโนต้องจ่ายภาษีรวมราว 39–40% ของรายได้จากเกมบาคาร่า

การนำภาษีไปใช้พัฒนาประเทศ

ภาษีที่เก็บได้จากบาคาร่าเป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐบาล โดยใช้ใน:

การสนับสนุนสวัสดิการประชาชน เช่น เงินอุดหนุนประชากรรายปี

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบขนส่งสาธารณะ สนามบิน และโรงพยาบาล

การจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมประจำปี

จากข้อมูลปี 2023 รัฐบาลมาเก๊าเก็บภาษีจากอุตสาหกรรมคาสิโนได้กว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบาคาร่าเป็นแหล่งรายได้หลัก

 

การควบคุมการฟอกเงินในภาคคาสิโน (โดยเฉพาะโต๊ะบาคาร่า)


แม้รายได้จากบาคาร่าในมาเก๊าจะสูงมาก แต่ก็เปิดช่องให้เกิด ความเสี่ยงด้านการฟอกเงิน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เล่น VIP ที่มียอดธุรกรรมสูงและซับซ้อน ดังนั้นรัฐบาลมาเก๊าจึงได้วางระบบควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันพฤติกรรมผิดกฎหมาย

 

วิธีการฟอกเงินที่พบบ่อยในบาคาร่า


การแลกเงินเป็นชิปจำนวนมาก แล้วนำชิปไป “แลกคืน” เป็นเงินสดหรือโอนต่างประเทศ

การใช้บุคคลที่สาม (เช่น นายหน้าหรือพนักงานคาสิโน) ทำธุรกรรมแทนผู้เล่น

การเล่นให้ขาดทุนจงใจ เพื่อโอนเงินให้ผู้อื่นอย่างแยบยล

 

มาตรการควบคุมจากรัฐบาลมาเก๊า


ระบบ Know Your Customer (KYC):

คาสิโนต้องเก็บข้อมูลลูกค้าโดยละเอียด เช่น สำเนาหนังสือเดินทาง ข้อมูลแหล่งที่มาของเงิน และติดตามพฤติกรรมการเล่น

การแจ้งธุรกรรมผิดปกติ (Suspicious Transaction Reports - STR):

ทุกธุรกรรมที่เกิน 500,000 MOP (ประมาณ 62,000 USD) จะต้องถูกบันทึกและส่งรายงานให้หน่วยงานตรวจสอบการเงิน

กลไกตรวจสอบร่วม (Joint Regulatory System):

ร่วมมือกับ Financial Intelligence Office (FIO) และหน่วยปราบปรามอาชญากรรม

ตรวจสอบการใช้บัญชีธนาคาร และการเคลื่อนย้ายเงินข้ามพรมแดน

ระบบติดตามการใช้ชิป (Casino Chip Tracking):

คาสิโนหลายแห่งใช้ระบบชิปอิเล็กทรอนิกส์เพื่อตรวจสอบการหมุนเวียนของชิปในโต๊ะบาคาร่าแบบเรียลไทม์

 

บทสรุป


บาคาร่า ไม่ได้เป็นเพียงเกมเดิมพันที่ผู้เล่นทั่วโลกนิยมเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมคาสิโนในหลายประเทศ โดยเฉพาะใน “มาเก๊า” ที่บาคาร่าเป็นแหล่งรายได้หลักซึ่งส่งผลโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจระดับชาติ ด้วยรายได้ต่อปีจาก gclub.co.com เพียงเกมเดียวที่สูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เกมนี้จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน GDP การจ้างงาน การท่องเที่ยว และรายได้ภาษีของภาครัฐอย่างมีนัยสำคัญ

คาสิโนในมาเก๊านั้นไม่ได้แค่เป็นสถานที่เล่นเกมเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่เป็นแหล่งหมุนเวียนเงินขนาดใหญ่ระดับโลกที่ดึงดูดนักลงทุน นักท่องเที่ยว และนักพนันจากทุกทวีป รายได้ที่เกิดขึ้นจากเกมบาคาร่าไม่เพียงช่วยให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีในอัตราสูงเพื่อนำกลับมาพัฒนาประเทศ แต่ยังทำให้มาเก๊ามีระดับรายได้ต่อหัวประชากรสูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของอุตสาหกรรมบาคาร่าก็มาพร้อมกับความท้าทายที่ไม่อาจมองข้าม เช่น ปัญหาการฟอกเงิน การเสพติดการพนัน และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจในบางกลุ่มประชากร รัฐบาลมาเก๊าได้พยายามตอบสนองต่อปัญหาเหล่านี้อย่างต่อเนื่องผ่านมาตรการกำกับดูแล เช่น การบังคับใช้กฎหมายป้องกันการฟอกเงิน (AML), ระบบ KYC, และการควบคุมการเข้าถึงคาสิโนของประชาชนในท้องถิ่น

ในท้ายที่สุด หากจะให้บาคาร่าเป็นแหล่งรายได้ที่ยั่งยืนและไม่สร้างผลเสียในระยะยาว การจัดสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความรับผิดชอบทางสังคมคือสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ทั้งจากภาครัฐ คาสิโน และผู้เล่นเอง การพัฒนาในมิติของจริยธรรม ความโปร่งใส และการส่งเสริการเล่นอย่างมีสติ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้บาคาร่าอยู่ในฐานะ “พลังทางเศรษฐกิจ” ที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)


1. ทำไมบาคาร่าถึงได้รับความนิยมในมาเก๊า?


เพราะบาคาร่ามีกติกาไม่ซับซ้อน มีอัตราการชนะสูงเมื่อเทียบกับเกมคาสิโนอื่น และได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักพนันชาวจีน

 

2. รายได้จากบาคาร่าคิดเป็นสัดส่วนเท่าใดของรายได้คาสิโนในมาเก๊า?


ประมาณ 88% ของรายได้คาสิโนทั้งหมดในมาเก๊ามาจากบาคาร่า

 

3. นักท่องเที่ยวจากประเทศใดเล่นบาคาร่ามากที่สุดในมาเก๊า?


นักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่เป็นกลุ่มหลักที่นิยมเล่นบาคาร่ามากที่สุด

 

4. การเล่นบาคาร่ามีผลเสียต่อเศรษฐกิจหรือไม่?


แม้จะสร้างรายได้สูง แต่บาคาร่าก็อาจก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม เช่น การเสพติดและฟอกเงิน หากไม่มีการควบคุมที่ดี

 

5. รัฐบาลมาเก๊าจัดเก็บภาษีจากบาคาร่าหรือไม่?


ใช่ รัฐบาลมาเก๊าเก็บภาษีจากรายได้คาสิโน รวมถึงรายได้จากบาคาร่าในอัตราสูงถึง 35%

#Gclub #จีคลับ #Gclubcasino #Gclubdownload #Gclubผ่านมือถือ #Gclubslot #Gclubบาคาร่า #Gclubทางเข้า

กลับด้านบน

Report this page